วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555


แม่คือใคร....ในชีวิตเรา

                 

แม่คือใคร  ในชีวิตเราคำถามนี้ถ้าคนไม่ไม่มีแม่ที่คอยให้ความรักความอบอุ่น หรือได้มอบสิ่งดีให้ก็คงไม่ค่อยเข้าใจมากนัก  บางครั้งคิดเลยเถิดไปว่า.. แม่ไม่เห็นมีความสำคัญเลย  ฉันเก่ง  ฉันรวย  ก็เพราะฉันขยันเอง  ดิ้นรนเอง   แต่บางคนที่เคยอยู่ใกล้ชิดกับแม่ย่อมทราบดีว่า แม่คือใคร ?  ผู้เขียนเองมีแม่คอยเลี้ยงดูเมื่อเยาว์วัยและมีตา-ยาย       และน้า ๆ  คอยประคับประคองชีวิตจนโต     จึงเข้าใจดีว่า       กว่าคนหนึ่งจะโตได้ผ่านกระบวนของชีวิตอะไรบ้าง      และมีโอกาสได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้กับท่านผู้รู้ทั้งหลาย      จึงได้รวบรวมคำว่า  แม่คือใคร..ในชีวิตเรา    
แม่คือ ผู้สร้างภาพยนตร์ โดยร่วมมือกับพ่อผู้กำกับการแสดงจนกระทั่งเกิดเราขึ้นมา
แม่คือ นักรักบริสุทธิ์ ผู้เป็นต้นแบบแห่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไข คือเมตตา
แม่คือ ครูคนแรก ที่สอนเราถึงวิธีดำเนินชีวิตในโลกนี้ ผู้สอนเราให้รู้จักแยกแยะระหว่าง "ความดี" กับ "ความชั่ว"
แม่คือ นายกรัฐมนตรี ผู้ตระเตรียมความจำเป็นขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เช่น  เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวแก่ลูก
แม่ คือ เกษตรกร ที่ลงแรงหว่านเมล็ดพันธุ์ เฝ้าพรวนดินรดน้ำและอดทนรอคอยการเกิดผลที่งอกงาม เป็นผู้ที่ดูแล เลี้ยงดู ฟูมฟัก นับตั้งแต่เราลืมตาดูโลกจนเติบโตขึ้นและพึ่งพาตนเองได้  ซึ่งผลิตผลคือลูกจะดีหรือไม่ดีนั้นแม่ยอมรับได้โดยดี     แต่ไม่ท้อที่จะสู้ต่อไป
แม่คือ จิตรกร ผู้แต่งแต้มสีสันชีวิตอนาคตของเรา  จะให้ลูกเดินในทิศทางใด ก็จะมีเป้าหมายให้
แม่คือ นักสร้างแรงบันดาลใจ ผู้ทำให้ความฝันใฝ่ของเราเป็นความจริง
แม่คือ นักประชาสัมพันธ์ ที่ชอบเชิดชูความสามารถของลูกตนเอง  ทำให้เรากล้าแสดงออกและพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ได้อย่างเต็มที่  
แม่คือ ทหาร ผู้ทำหน้าที่ปกป้องภยันตรายให้เรา ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์ช่วยตัวเองไม่ได้จนกระทั่งเติบใหญ่สมบูรณ์และแข็งแรง   ดังคำที่ว่า   มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม  เป็นตัวอย่าง
แม่คือ  นางพยาบาล  โดยคอยเฝ้าไข้   ดูแลรักษา ยามเราเจ็บไข้ได้ป่วย  ถึงแม้ตนเองจะยืนแทบไม่ไหวก็ถามลูกว่าหิวข้าวไหมลูก ไม่เคยห่วงตนเองมากกว่าลูกตนเลย
แม่คือ  นักบุญ ที่พร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัว โดยไม่คำนึงว่าตนต้องเสียประโยชน์เพียงใด   เพื่อลูกแล้วแม่ยอมทุกอย่าง  เช่น สามีตายแล้วก็ไม่ยอมมีสามีใหม่เพราะสงสารลูกก็ลูกจะคิดมาก
แม่คือ  ผู้ใช้แรงงาน ที่ทำงานหนักที่สุด ตั้งแต่เช้าจรดค่ำตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันเสาร์ ไม่มีวันหยุ
แม่คือ  นักรบ ผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค แต่ฝ่าฟันที่จะทำทุกสิ่งเพื่อชัยชนะในชีวิตของเรา
แม่คือ ผู้จัดการ ผู้แบ่งงานให้เราทำ ทำให้เรารู้จักคำว่า หน้าที่ และความรับผิดชอบ
แม่คือ  ตู้บัตรเอทีเอ็ม  ที่สามารถกดเงินได้ตลอด  ไม่เลือกเวลาขอ
แม่คือ ผู้พิพากษา ผู้ตัดสินคดีเวลาเราทะเลาะกับพี่น้อง  ด้วยความยุติธรรมเสมอ
แม่คือ ที่ปรึกษาส่วนตัว ผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องที่สำคัญ ทั้งทางกายภาพและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามวัยของเรา การเลือกคบเพื่อน การเลือกคู่ครอง การประกอบอาชีพ
แม่คือ นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ ให้ความรัก ความอบอุ่น ให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ
แม่คือ มัคคุเทศก์ ผู้นำเราท่องเที่ยวเรียนรู้ในโลกกว้าง
แม่คือ นักปรัชญา ผู้สอนให้เรารู้จัก "คุณค่าของชีวิต"
แม่คือ กระจกเงา ผู้ที่ทำให้คำกล่าวที่ว่า "ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น" เป็นจริง แม่มีอิทธิพลในการกำหนดท่าที ความคิด บุคลิกภาพ นิสัยใจคอของเรา ทำให้เรามีเอกลักษณ์ต่างจากคนอื่น  โดยถอดแบบมาจากแม่
แม่คือ ... อะไรสำหรับเรานั้น คงจะมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว
จะเห็นได้ว่าในนิยามของคำว่า "แม่" สามารถที่จะมีได้อีกนับสิบนับร้อยนับพันนิยามในการที่จะกล่าวถึงพระคุณของท่านในชีวิตเรา  บางคนอาจคิดว่าบทบาทของแม่ในปัจจุบันดูเหมือนลดน้อยลงและถูกทดแทนด้วยสิ่งอื่นๆ แม่บางคนอาจจะให้เวลากับลูกน้อยลง ลูกอาจจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อยู่กับคนอื่นมากกว่าอยู่กับแม่ โรงเรียนอาจทำหน้าที่ในการสอนลูกแทนแม่ ฯลฯ  แต่ไม่ว่าบทบาทของแม่จะถูกทดแทนด้วยสิ่งใด ความเป็นแม่ก็มิอาจถูกลดคุณค่าลงได้   เพราะสิ่งแปลกปลอมอื่นใดก็ไม่สามารถสวมทับ "นิยามแห่งความเป็นแม่"   คำว่า "แม่" ว่าเป็นเช่นไรในชีวิตเรา  ซึ่งเราทุกคนควรคำนึงถึงสิ่งดีที่เราได้รับผ่านชีวิตของท่าน ในที่สุดเราจะพบว่าการรำลึกถึงพระคุณของแม่นั้นได้นำความอิ่มเอมใจมาสู่เราไม่ยากเลย   ทำให้เราไม่ละเลยที่จะตอบสนองพระคุณของท่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะเป็นเหตุให้เราช่วยกันสร้างสรรค์สังคมที่เด็กๆ จะมีแม่ที่เป็น "แม่" ตามที่นิยามอย่างครบบริบูรณ์

(Cr. http://www.vcharkarn.com/vblog/37130)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น